วันพฤหัสบดีที่ 21 กรกฎาคม พ.ศ. 2559

การออกแบบทัศนศิลป์


การออกแบบทัศนศิลป์

การออกแบบจำแนกได้ ประเภท
การออกแบบจำแนกได้ ประเภท คือ การออกแบบโครงสร้าง และการออกแบบตกแต่ง
1.การออกแบบโครงสร้าง คือ การออกแบบรูปร่างและรูปทรงของวัตถุ เพื่อให้ได้สัดส่วนพอเหมาะ
2.การออกแบบตกแต่ง คือ การใช้ลวดลายตกแต่งให้กับโครงสร้างหลักเพื่อความสวยงาม

องค์ประกอบของการออกแบบ
ผลงานออกแบบส่วนมากจะมีการผสมผสานองค์ประกอบอย่างกลมกลืน ตรงตามความมุ่งหมายที่ออกแบบไว้ โดยการออกแบบนั้นจะต้องคำนึงถึงหลักการ เพื่อให้ได้ผลงานที่มีคุณภาพ โดยอาศัยองค์ประกอบต่อไปนี้
1.เส้น (Line) จะต้องมีความเข้าใจเกี่ยวกับลักษณะของเส้น
2.ทิศทาง (Direction)
3.รูปร่างและรูปทรง (Form and Shape) รูปร่างจะมีลักษณะกว้างและยาว รูปทรงมีลักษณะกว้าง ยาว หนา
4.ขนาดและสัดส่วน (Size and proportion)
5.ลักษณะพื้นผิว (Textury) คือสื่งที่เห็นหรือสัมผัสได้
6.น้ำหนักและสี (Value and Colour)
7.ดุลยภาพ (Balance)
8.ความกลมกลืน (Harmony) จัดองค์ประกอบให้ได้ประสานกลมกลืน
9.ความขัดแย้ง (Contrast) เป็นการจัดองค์ประกอบให้ตรงข้ามกัน
10.ความเด่น (Dominance) คือ การสร้างองค์ให้มีลักษณะเด่น
11.การเคลื่อนไหว (Movement)
12.จัวหวะ (Rhythm)
13.เอกภาพ (Unity) คือ การจัดให้เป็นอันหนึ่งอันเดียวกัน

การออกแบบงาน2มิติและ3มิติ
การออกแบบงาน2มิติ แบ่งออกเป็น4ประเภท
1.การออกแบบกราฟิก จุดมุ่งหมายเพื่อการค้าเป็นส่วนใหญ่ การออกแบบตราสัญลักษณ์ การออกแบบโฆษณาการออกแบบภาพเครื่องหมาย
2.การออกแบบแฟชั่น
3.การออกแบบผลิตภัณฑ์
4.การออกแบบตกแต่งภายใน
การออกแบบงาน3มิติ แบ่งออกเป็น2ประเภท
1.การออกแบบผลิตภัณฑ์ คือ การออกแบบอุปกรณ์ เครื่องมือ-เครื่องใช้ต่างๆ
2.การออกแบบงานฝีมือ
การจัดแสดงนิทรรศการ
คือ การแสดงเพื่อการศึกษา จะจัดภายในอาคารหรือภายนอกอาคารก็ได้หลักการออกแบบนิทรรศการ
1.เอกภาพ คือ การจัดให้เป็นหมวดหมู่ และมีความสัมพันธูกันโดยตลอด
2.สมดุล คือ การจัดวัสดุให้มีความสมดุลกัน
3.เน้น คือ การสร้างจุดเด่นหรือจุดด้อย
4.แตกต่าง คือ การสร้างงานให้แปลกใหม่ ไม่ซ้ำใคร
5.เรียบง่าย

การใช้โปรแกรมคอมพิวเตอร์ในการออกแบบ
การใช้โปรแกรมAdobe Photoshopในการออกแบบคือโปรแกรมใช้สำหรับงานเกี่ยวกับภาพ เป็นโปรแกรมทีจัดความละเอียดของงาน มีการออกแบบดังนี้
วัสดุ/อุปกรณ์
1.คอมพิวเตอร์
2.โปรแกรมAdobe Photoshop
3.เครื่องพิมพ์
4.กระดาษ
ขั้นตอนและเทคนิกในการปฏิบัติ
1.เปิดโปรแกรมPhotoshop
2.เลือกคำสั่งFileเพื่อเปิดไฟล์งาน
3.เลือกOpen
4.เปิดภาพที่ต้องการใช้งาน
5.เลือกเครื่องมือปากกา เพื่อสร้างPaths
6.คลิกเมาส์เพื่อPathsส่วนที่ต้องการใช้งาน
7.เมื่อPathsส่วนที่ต้องการใช้งานเรียบร้อยแล้ว ให้คลิกที่มุมด้านขวาของPalette Paths
8.เลือกคำสั่งMake Selectionเมื่อเลือกแล้วจะมีDialog Boxขึ้นมา เพื่อให้ใส่ค่าFeather Radiusเลือกใส่ตามความเหมาะสม แล้วคลิกOK
9.จากนั้นใช้คำสั่งInverseโดยเข้าที่เมนูบาร์เลือกSelectแล้วเลือกInverse
10.ดูที่Palette LayerดับเบิลคลิกBackground Layerเพื่อปลดล็อกLayer
11.กดปุ่มDeleteที่Keyboardเพื่อลบส่วนที่ไม่ต้องการออก
12.สาสมรถใช้ยางลบ ตกแต่งเพื่อความละเอียดของชิ้นงานได้
13.ภาพที่สมบูรณ์พร้อมที่จะไปประกอบกับส่วนที่เป็นฉากหลังต่อไป
14.จากนั้น กลับมาเลือกคำสั่งFileเลือกOpenเพื่อเปิดไฟล์งานอีกครั้ง โดยครั้งนี้จะเป็นการเปิดภาพเพื่อนำมาทำฉากหลัง
15.ภาพที่เลือก
16.กลับมาดูภาพที่หนึ่ง1เลือกเครื่องมือMove Tool
17.คลิกเมาส์ภาพที่1ค้างไว้ แล้วลากมายังภาพที่2
18.ใช้เครื่องมือMove Toolเลื่อนภาพให้อยู่ในตำแหน่งที่ต้องการ
19.เลือกคำสั่งType Toolพิมพ์ข้อความที่ต้องการลงไป
20.เปลี่ยนฟอนต์ ขนาดตัวอักษร และสีให้สวยงาม โดยใช้Type Toolคลุมตัวอักษรที่ต้องการ แล้วเปลี่ยนที่แถบเครื่องมือ
21.คลิกที่มุมด้านขวPalette Layerแล้วเลือกFlatten Imageเพื่อทำการรวมLayerเข้าด้วยกัน
22.ภาพที่เสร็จสมบูรณ์ พร้อมนำไปใช้งาน

วันพุธที่ 13 กรกฎาคม พ.ศ. 2559

จัดฟัน

จัดฟัน


ข้อดีของการจัดฟัน

  1. เพื่อความสวยงามและเพื่อบุคลิกภาพที่ดีขึ้น ฟันดูสวยงาม ยิ้มสวยมากขึ้น ยิ่งในยุคนี้ไม่ว่าจะทำงานอะไรก็ล้วนแล้วแต่มีเกณฑ์การคัดเลือกในเรื่องของบุคลิกกันทั้งสิ้น ผู้ที่มีบุคลิกที่ดีกว่าย่อมมีโอกาสได้รับการคัดเลือกมากกว่า การมีรอยยิ้มที่สวยงามจะทำให้เจ้าของรอยยิ้มมีบุคลิกที่ดี กล้าแสดงออก และมีเสน่ห์ ทำให้อยู่ในสภาวะสังคมปัจจุบันที่มีการแข่งขันสูง ๆ ได้อย่างมีคุณภาพ การจัดฟันจึงถือเป็นเรื่องที่น่าลงทุนเพื่ออนาคตที่ดีกว่าของคุณ
  2. เพื่อให้ฟันทำหน้าได้อย่างเต็มประสิทธิภาพ มีการสบฟันที่ดีขึ้น และเคี้ยวอาหารได้ดีกว่าเดิม
  3. เพื่อสุขภาพที่ดีของช่องปากและฟัน เพราะหากมีปัญหาฟันซ้อนเก ฟันยื่น ฯลฯ จะทำให้การทำความสะอาดฟันเป็นไปอย่างไม่ทั่วถึง และมักเกิดปัญหาฟันผุตามมา เมื่อจัดฟันให้เข้าที่เข้าทางแล้ว การทำความสะอาดก็จะมีประสิทธิภาพมากขึ้นตามไปด้วย จึงช่วยลดความเสี่ยงต่อการเกิดฟันผุและเหงือกอักเสบได้
  4. ช่วยลดการมีกลิ่นปาก เนื่องจากการแปรงฟันไม่สะอาด โดยเฉพาะอย่างยิ่งในผู้ที่ฟันเรียงตัวไม่เป็นระเบียบ การจัดฟันอาจช่วยลดปัญหากลิ่นปากได้เป็นอย่างดี
  5. บางคนจัดฟันแล้วนิสัยรักษาความสะอาดและความมีระเบียบวินัยจะมีมากขึ้นจนติดเป็นนิสัย
  6. ในบางรายจัดแล้วโครงหน้าอาจเข้ารูปและดูดีมากขึ้น หรือหน้าดูเรียวมากขึ้น
  7. การจัดฟันเป็นแฟชั่นที่ทำแล้วดูไม่น่าเกลียด จัดแล้วดูน่ารัก และช่วยเพิ่มจุดเด่นให้คนอื่นจำเราได้ง่ายขึ้นอีกด้วย
  8. ช่วยดัดนิสัยการรับประทานอาหารทางอ้อม จัดฟันแล้วนึกจะกินอะไรก็กินได้เลยเหมือนแต่ก่อนคงทำไม่ได้แล้ว
  9. ในผู้ที่มีปัญหาเรื่องฟันห่างหรือฟันมีลักษณะการสบฟันหน้าแบบสบเปิด (กัดเส้นก๋วยเตี๋ยวไม่ขาด) หลังจัดฟันเสร็จแล้ว จะช่วยให้มีการออกเสียงพูดได้ถูกต้องและชัดเจนมากขึ้น โดยเฉพาะเสียง “ส.เสือ”

ข้อเสียของการจัดฟัน

  1. การจัดฟันไม่ว่าแบบถูกหรือแพง แต่ยังไงก็แพงอยู่ดี
  2. ในบางรายต้องถอนฟัน (สมบูรณ์) ออกไปหลายซี่
  3. ปากห้อยมากขึ้น (อมเหล็ก) ในช่วงแรก ๆ จะมากหรือน้อยก็แล้วแต่รูปปากของแต่ละคนด้วย
  4. เจ็บมาก เจ็บน้อย ขึ้นอยู่กับวิธีการจัดฟันที่เลือก แต่ยังไงก็เจ็บอยู่แล้วล่ะ จะเจ็บตอนถอนฟัน ดึงลวด หรือลวดบาดปากก็แล้วแต่กรณี
  5. ใช้เวลานานกว่าฟันจะเริ่มเข้าที่เข้าทางอย่างน้อยประมาณ 2 ปี
  6. ในขณะติดเครื่องมือจัดฟันจะทำความสะอาดฟันได้ยาก และเสี่ยงต่อฟันผุได้ถ้าไม่ดูแล
  7. อาหารอาจติดเหล็กจัดฟันได้บ่อย สำหรับผู้หญิงการพกกระจกติดตัวไว้ตลอดเวลาจะช่วยได้เยอะ
  8. พูดไม่ชัดบ้างในระยะแรกหลังการจัดฟัน
  9. ในกรณีที่จัดฟันด้านนอกแบบธรรมดา หลังแกะเครื่องมือออก ผิวฟันอาจไม่เรียบ
  10. ตอนใส่รีเทนเนอร์ เป็นอะไรที่รำคาญสุด ๆ สำหรับบาง ไม่ใส่นาน ๆ ก็ไม่ได้ เพราะฟันจะเคลื่อน ฟันห่างหรือล้ม ไม่แข็งแรง แค่ไม่ใส่วันสองวัน มาใส่อีกทีก็เจ็บจะแย่แล้ว บางคนกับถึงต้องจัดฟันใหม่อีกรอบก็มี
  11. บางทีมันก็เป๊ะเกินไป อย่างบางคนก่อนจัดฟัน มีฟันเกแบบเบี้ยวเสน่ห์ คนเห็นแล้วจำได้ แต่พอจัดเสร็จ ฟันเรียงสวยงาม คนกลับจำหน้าไม่ได้ นี่แหละเสน่ห์ที่หายไป
  12. บางรายอาจรู้สึกว่าฟันอ่อนแอมาก เคี้ยวอะไรแข็ง ๆ ได้ไม่ดีเท่าเดิม
  13. บางรายจัดฟันเสร็จแล้วหน้าดูตอบ
  14. ต้องไปพบทันตแพทย์เป็นประจำ